‘PRM’ เผยปี 64 ทำกำไรสุทธิ 1,526.5 ล้านบาท

‘บมจ.พริมา มารีน’ หรือ PRM เผยผลการดำเนินงานปี 64 ทำรายได้รวม 5,880 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,526.5 ล้านบาท ด้านบอร์ดฯ มีมติอนุมัติเงินปันผลในอัตรา 0.26 บาทต่อหุ้น ส่วนปี 2565 ตั้งเป้าเติบโต 10% สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มมากขึ้น มองครึ่งปีหลังเป็นจุด Turnaround พร้อมเตรียมส่งมอบเรือ VLCC เพิ่ม 2 ลำ เป็นหัวหอกขับเคลื่อนธุรกิจหนุนสร้างความมั่นคงของรายได้จากสัญญาระยะยาวจากการให้บริการกลุ่มไทยออยล์

นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (PRM) ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรือรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ชะลอตัวลง จึงถือเป็นปีแห่งความท้าทายในเชิงการบริหารจัดการเพื่อรับมือกับปัจจัยลบที่เกิดขึ้น โดยบริษัทฯ ได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารพอร์ตกองเรือ ให้มีความเหมาะสมกับทิศทางของอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการขยายการลงทุนในธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ และธุรกิจเรือ Offshore Support Vessel ซึ่งเป็น 2 กลุ่มธุรกิจที่ยังคงมีแนวโน้มเติบโต โดยการส่งมอบเรือขนาด VLCC จำนวน 1 ลำ เพื่อให้บริการแก่กลุ่มไทยออยล์ภายใต้สัญญาระยะยาว รวมถึงมีการขยายธุรกิจในเรือ Crew Boat ที่ยังคงมีความต้องการสูงเพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานในกิจกรรมสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในอ่าวไทยที่อยู่ในช่วงขยายตัว เป็นผลให้ PRM ทำรายได้รวม 5,880.0 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,526.5 ล้านบาท แม้ในปี 2564 ที่ผ่านมาเศรษฐกิจไทยและโลกได้รับผลกระทบหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 จึงมีมติจ่ายเงินปันผลงวดผลการดำเนินงานปี 2564 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.26 บาทต่อหุ้น โดยจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลไปแล้วเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ในอัตรา 0.08 บาทต่อหุ้น คงเหลือจ่ายเงินปันผลจากงวดการดำเนินงานในปี 2564 เพิ่มเติมให้แก่ผู้ถือหุ้นอีก 0.18 บาทต่อหุ้น โดยเป็นการจ่ายจากกำไรสุทธิส่วนที่ไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน (Non-BOI) ในอัตรา 0.18 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลในครั้งนี้รวม 450 ล้านบาท โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 ซึ่งจะเสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติต่อไป

สำหรับเป้าหมายในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตประมาณ 10% จากการนำข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันด้านความพร้อมพอร์ตกองเรือเพื่อให้บริการแก่ลูกค้า ซึ่งคาดว่าจะเห็นการเติบโตที่ชัดเจนตั้งแต่ช่วงครี่งปีหลังของปีนี้ โดยบริษัทฯ มีแผนส่งมอบเรือ VLCC จำนวน 2 ลำ เพื่อให้บริการแก่กลุ่มไทยออยล์ภายใต้สัญญาระยะยาว ซึ่งจะสร้างความมั่นคงของรายได้ประจำและสม่ำเสมอ (Recurring Income) และเป็นแรงผลักดันการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ขณะที่กลุ่มธุรกิจเรือขนส่งภายในประเทศคาดว่าจะมีอัตราการใช้เรือเพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงขยายการให้บริการเรือเพื่อการขนส่งปิโตรเคมีเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มเรือ Offshore บริษัทฯ มีแผนนำเรือ Crew Boat ขยายการให้บริการเพิ่มเติมจากความต้องการในการใช้เรือที่เพิ่มสูงขึ้น เช่นเดียวกับธุรกิจเรือ FSU ที่มุ่งบริหารจัดการเรือให้มีอัตราการใช้เรือในระดับสูง เพื่อสนับสนุนการเติบโตให้เป็นไปตามเป้าหมาย

อ้างอิง
https://m.mgronline.com/stockmarket

‘บมจ.พริมา มารีน’ หรือ PRM เผยผลการดำเนินงานปี 64 ทำรายได้รวม 5,880 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 1,526.5 ล้านบาท ด้านบอร์ดฯ มีมติอนุมัติเงินปันผลในอัตรา 0.26 บาทต่อหุ้น ส่วนปี 2565 ตั้งเป้าเติบโต 10% สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำมันที่เพิ่มมากขึ้น มองครึ่งปีหลังเป็นจุด Turnaround พร้อมเตรียมส่งมอบเรือ VLCC เพิ่ม 2 ลำ เป็นหัวหอกขับเคลื่อนธุรกิจหนุนสร้างความมั่นคงของรายได้จากสัญญาระยะยาวจากการให้บริการกลุ่มไทยออยล์ นายวิริทธิ์พล จุไรสินธุ์ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) (PRM) ผู้ให้บริการขนส่งและจัดเก็บผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม และปิโตรเคมีเหลวทางเรือรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2564 ว่าจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อภาพรวมเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมท่องเที่ยวให้ชะลอตัวลง จึงถือเป็นปีแห่งความท้าทายในเชิงการบริหารจัดการเพื่อรับมือกับปัจจัยลบที่เกิดขึ้น โดยบริษัทฯ ได้นำประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารพอร์ตกองเรือ ให้มีความเหมาะสมกับทิศทางของอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการขยายการลงทุนในธุรกิจเรือขนส่งระหว่างประเทศ และธุรกิจเรือ Offshore Support Vessel ซึ่งเป็น 2…